เครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยอํานวยความสะดวกและมีประโยชน์ในชีวิตประจําของวัน แต่ถ้าหากใช้งานมาก ส่งผลสิ้นเปลื้องค่าไฟ แล้วมี วิธีเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลม แอร์ โทรทัศน์ ตู้เย็น หม้อหุงข้าว
กระติกนํ้าร้อน และเครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น คนส่วนใหญ่เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามองแค่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้มองถึงคุณภาพการใช้งาน ส่งผลให้เกิดปัญหา เช่น กินไฟ มีรอยชำรุด และใช้งานได้ไม่นาน เป็นต้น ทําให้ต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านั้น บทความนี้เราจึงมาแนะนำ วิธีเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้าน อย่างไรให้ปลอดภัย และประหยัดค่าไฟในบ้านให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่น่าปวดหัวตามมา ถ้าพร้อมแล้วเราไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

(ภาพจาก unsplash.com)
1.ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าว่ากินไฟมากน้อยเพียงใด
การใช้ไฟฟ้าเรามักจะเห็นคิดค่ากำลังไฟกันเป็น กิโลวัตต์ ซึ่งก็คือแรงเทียน หรือกำลังไฟฟ้าที่ใช้งานไปนั่นเอง (1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง = 1,000 วัตต์) หากมีจำนวนวัตต์มากก็จะยิ่งเปลืองไฟมาก ซึ่ง 1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จะเท่ากับ 1 ยูนิตหรือ 1 หน่วย ตามบิลค่าไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น
ในบ้านมีหลอดไฟจำนวน 100 วัตต์ 10 หลอด เท่ากับ 100×10 = 1,000 วัตต์ (1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง)
ถ้าเปิดไฟทั้ง 10 ดวง นาน 2 ชั่วโมง เท่ากับ 1,000×2 = 2,000 วัตต์ (2 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง)
ดังนั้น 2 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง = 2 ยูนิต หรือ 2 หน่วย ตามบิลค่าไฟฟ้า
2.ตรวจสอบสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าได้มาตราหรือไม่
เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ มักจะมีสายไฟเอาไว้เชื่อมต่อกับปลั้กไฟในการเปิดใช้งาน ซึ่งเราแนะนำให้คุณตรวจสอบก่อนว่าสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้มาตรฐานในการใช้งานหรือไม่ โดยจะต้องมีเครื่องหมาย มอก. กำกับอย่างชัดเจน และต้องเป็นสายไฟที่สามารถทนต่อกระแสไฟฟ้าสูงสุดของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
เลือก

(ภาพจาก unsplash.com)
3.ตรวจสอบความแข็งแรง ทนทานของเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าหากสังเกตว่า มีรอยชำรุด รอยขีดข่วน หรือมีตำหนิ อาจจะเกิดอันตรายเวลาใช้งานได้ เพราะกระแสไฟฟ้าสามารถรั่วไหลออกมาสร้างอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ และเราไม่แนะนำให้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามือ 2 เพราะส่วนมากจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ และมีโอกาสชำรุดได้ง่าย เราแนะนําให้คุณเลือกร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตราฐาน และเชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
4.เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามีเครื่องหมาย มอก.
เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่มีความปลอดภัยสูงควรต้องมีผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. หรือผ่านการรับรองจากสถาบัน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผลิตมาจากหลายแหล่ง ซึ่งมีทั้งของกอปและของแท้ ถ้าถามเราว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของกอปสามารถใช้งานได้ไหม เราขอตอบเลยว่าได้ ถ้าคุณไม่มีเงินในการซื้อของแท้จริง ๆ แต่ถ้าจะให้ดีเราแนะนำให้คุณลงทุนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของแท้ไปเลย เพราะจะสามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเปลี่ยนใหม่ในอนาคต อีกทั้งมีความปลอดภัยอีกด้วย
5.ทดลองใช้งานก่อนซื้อมาใช้จริง
หากคุณไปเดินซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าตามห้างหรือตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เราแนะนำให้คุณทดลองก่อนว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ เพราะมีบางกรณีซื้อมาแล้วปลั๊กเสียบกับเต้ารับหลวมเกินไปและปัญญาหาอื่น ๆ มากมาย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นการทดลองที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าใช้งานได้จริง และไม่ต้องเสียเวลามาเปลี่ยนใหม่กรณีที่ซื้อไปแล้วใช้ไม่ได้ อีกทั้งคุณสามารถรู้วิธีการใช้เบื้องต้นของเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะเจ้าของร้านจะสอนคุณได้ว่าจะต้องใช้งานอย่างไร
6.มีประกันสินค้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการรับประกันสินค้า จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะพังหรือเสียหายระหว่างใช้งาน โดยประกันขั้นต่ำควรประมาณ 1 ปี ขึ้นไป การทำประกันสินค้าเอาไว้ในกรณีที่เสียหาย คุณสามารถเปลี่ยนใหม่หรือซ่อมได้ฟรี
จบกันไปแล้วสำหรับวิธีการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้อย่าลืมที่จะปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช่ และถอดปลั้กทุกครั้ง เพราะจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าภายในบ้านได้มากเลยค่ะ